ปล้นร้านทองลพบุรี – เมื่อช่วงประมาณ 2 ทุ่ม ของคืนวันที่ 9 มกราคม เกิดเหตุสะเทือนขวัญชาวลพบุรีและชาวไทยทั้งประเทศ ชายคนร้ายสวมชุดสีดำกางเกงหลายพลาง คุมไอ้โม่ง ถือปืนเก็บเสียง ขนาด 9 ม.ม. บุกเข้าปล้นร้านทองในห้างโรบินสัน ในจังหวัดลพบุรี
คลิปจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นคนร้ายเดินเข้าห้างมาทางประตูใกล้ร้านทอง
จากนั้นก็กราดยิงใส่คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ยิงหน้าอกพนักงานขายของร้านเสียชีวิตในร้าน ยิงรปภ. และที่น่าเศร้าคือ หนึ่งในนั้นกระสุนได้ปลิดชีพเด็กน้อยวัยเพียง 2 ขวบที่มาเดินเที่ยวห้างจากแม่ และมีผู้บาดเจ็บได้รับลูกหลง 3 ราย
คนร้ายได้กระโจนข้ามตู้ทองอย่างคล่องแคล่วและกวาดทองไปได้ ก่อนขี่จักรยานยนต์หลบหนีไป ล่าสุดมติชนออนไลน์ รายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 5 รายแล้ว เป็นชาย 2 ราย หญิง 2 ราย เด็ก 2 ขวบ 1 ราย พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 สั่งหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ลงพื้นตามล่าตัวคนร้ายปล้นร้านทองมาดำเนินคดี หากผู้ต้องหาต่อสู้ขัดขืน วิสามัญได้ทันที ล่าสุดยังจับตัวไม่ได้
ด้าน พตอ.ดร.กันตพงษ์ นิลขำผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหนองแซง สระบุรี ที่ สภ.หนองแซง โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “ปล้นทองโรบินสันลพบุรี ขอกล้องหน้ารถประชาชนทุกท่านที่ผ่าน ช่วงก่อนเกิดและหลัง ส่งให้ตำรวจด้วยครับ”
เมื่อตรวจสอบในโลกออนไลน์ พบพยานผู้อยู่ในเหตุการณ์ซึ่งไปเที่ยวห้างขณะที่เกิดเหตุพอดี ได้เล่าวินาทีระทึกไว้ว่า “ความปลอดภัยของชีวิตอยู่ที่ไหน
เมื่อสักครู่ผมพาลูกสาวไปซื้อของขวัญที่โรบินสันลพบุรี เพื่อไปจับของขวัญวันเด็กที่โรงเรียน ก่อนกลับหิวเลยพาแวะกินสุกี้กัน
ระหว่างกินไปได้สักพักมีผู้หญิงคนหนึ่งอุ้มเด็กชายวัยประมาณ 3-4 ขวบเลือดท่วมร่าง โดนยิงเข้ากลางหน้าผาก อุ้มเข้ามาในร้านร้องเสียงหลงอย่างน่าสลด และมีเสียงคนตะโกนว่ามีโจรปล้นร้านทองหมอบๆ
สติทุกคนหลุดแล้วหมอบคลานกันอลหม่าน เสียงเงียบไปสักพักปรากฏว่าใกล้ด้านหน้าร้านทองมีลูกค้าที่กินสุกี้ข้าง ๆ กันแต่เขาและภรรยาเช็คบินออกไปก่อน
โดนยิงทั้งคู่นอนหงายคู่กัน มีแต่เสียงร้องวิ่งกันวุ่น สรุปเหตุการณ์โจรปล้นร้านทอง มึงยิงทุกคนที่เดินผ่าน โคตระยำ
ไม่รู้ผีห่าซาตานตัวไหนเข้าสิง มันยิงทุกคนที่ผ่าน น้องพนักงานร้านทองก็โดน ยามเฝ้าประตูก็โดน เสียชีวิตกันกี่คนไม่แน่ใจ น่าจะเยอะครับ มึงเหี้ยมาก อันตรายมากครับ สังคมมันแย่ ฆ่าแกงกันอย่างกะผักปลา ไปไหนมาไหนระวังกันด้วยครับ น่ากลัวมากจริงๆ”
ความคืบหน้าเหตุคนร้ายยิงรถบิ๊กโจ๊ก กองพิสูจน์หลักฐานเร่งหาตัวคนผิด
สืบเนื่องจากวันที่ 6 มกราคม 2553 เวลาประมาณ 20:30 น. เกิดเหตุคนร้าย 2 ราย สวมหมวกกันน็อก ขี่รถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนเข้ามาภายในซอยสาริกา ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ ก่อนใช้อาวุธปืนยิงใส่ด้านซ้ายของรถยนต์ที่นั่งส่วนบุคคลยี่ห้อเล็กซัส สีขาว หมายเลขทะเบียน 9 กจ 351 กรุงเทพมหานคร ที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ขับมาจอดไว้บริเวณดังกล่าว ก่อนที่คนร้ายจะขี่รถหลบหนีไปโดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
โดยล่าสุด พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผู้ช่วย ผบ.ตร.) และโฆษก ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. และพล.ต.ท.วิเชียร ตันตะวิริยะ ผบช.สพฐ. แถลงผลความคืบหน้ากรณีคนร้าย บุกยิงรถยนต์ของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ย่านถนนสุรวงศ์ เขตบางรัก
ขณะเดียวกัน ชุดสืบสวนได้ประชุมติดตามความคืบหน้าคดี โดยมี พลตำรวจเอกวิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานสั่งการให้ชุดสืบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล, ชุดสืบสวนตำรวจนครบาล 6 และชุดสืบสวน สน.บางรัก แบ่งขณะทำงานออกเป็น 2 ชุด สืบสวนเส้นทางหลบหนีหลังเกิดเหตุ และตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่จุดเกิดเหตุย้อนหลัง 7-15 วัน ขณะที่วันพรุ่งนี้(8 ม.ค.63) เวลาประมาณ 12.30 น. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ จะเดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนที่ สน.บางรัก
ด้าน พล.ต.ท.ปิยะ เปิดเผยว่า จากการประชุมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน พบว่ารถถูกยิงทั้งหมด 8 นัด ด้านขวาของตัวรถที่ประตูหน้า 1 นัด และที่ประตูหลังอีก 7 นัด นอกจากนี้ยังพบหัวกระสุนปืนอีก 2 นัดที่จุดเกิดเหตุ โดยใช้วิถียิงต่ำ แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าผู้ก่อเหตุมีความเชี่ยวชาญการใช้อาวุธปืนและมีเป้าประสงค์ใด ซึ่งหลังจากนี้ ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวิถีกระสุนปืน และหัวกระสุนปืน ด้วยระบบ IBIS ขณะเดียวกันได้ประสานขอรื้อรถยนต์คันดังกล่าวเพื่อตรวจสอบหาหลักฐานเพิ่มเติม คาดว่าจะแล้วเสร็จวันพรุ่งนี้
แนะนำ : รีวิวหนังไทย | คู่มือพ่อแม่มือใหม่ | แม่และเด็ก | เรื่องผี | แคคตัส กระบองเพชร